คำว่าวัดนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ศาสนาพุทธเท่านั้น ยังอาจจะรวมถึงศาสนาสถานของศาสนาอื่นด้วย แม้ว่าศาสนาอื่นจะมีคำเรียกศาสนสถานของตัวเองไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ของศาสนาคริสต์ มัสยิดของศาสนาอิสลาม เป็นต้น แต่มีอยู่วัดหนึ่งที่แม้จะขึ้นต้นด้วยคำว่าวัด แต่กลับไม่ใช่ศาสนาพุทธ นั่นคือวัดแขก หรือ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี นั่นเอง
วัดแขก หรือ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี เป็นมาอย่างไร
ก่อนจะไปว่ากันเรื่องวัดนั้น ต้องบอกก่อนว่าประเทศไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เสรีมากในการนับถือศาสนา และการเผยแพร่ศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ความเชื่อใดก็สามารถเข้ามาได้ในบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่น วัดแขกนี้ก็ใช่ หากนับจากป้ายหน้าวัดบอกไว้ว่าวัดแขกสีลมแห่งนี้ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2422 ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโน่นเลย ต้นกำเนิดมาจากกลุ่มชาวอินเดียที่อพยพมาตั้งรกรากจากทางอื่นแล้วมาอาศัยอยู่ในกรุงรัตนโกสินทร์ จากนั้นได้มีการสร้าง เทวสถานเจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวีขึ้น เพื่อสักการะสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวอินเดียด้วยกันเอง จากนั้นก็สร้างต่อมาเรื่อยจนกลายเป็นวัดแขกสีลมในปัจจุบัน ส่วนที่เรียกกันว่า วัด แม้จะไม่ใช่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาฮินดูเชื่อกันว่าตอนนั้นคนไทยเองก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี เนื่องจากนี้เป็นความเชื่อที่ยังไม่มีในบ้านเราจึงเรียกนำหน้าว่าวัดไว้ก่อน(เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และเคารพ) เรียกไปมาจนติดปากกลายเป็น วัดแขกสีลม นั่นเอง
กิจกรรมสำคัญของวัดแขกสีลม
วัดแขกสีลมแห่งนี้ มีกิจกรรมสำคัญทั้งกิจกรรมในแต่ละวัด หรือ งานเทศกาลประจำปีที่หากมีโอกาสน่าจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อเปิดโลกทัศน์ของตัวเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทศกาลแห่เจ้าแม่วัดแขก กิจกรรมจัดช่วงเดือนตุลาคม จะเป็นการบูชาเจ้าแม่วัดแขกยาวนานถึง 10 วัน 10 คืน มีกิจกรรมอัญเชิญองค์เจ้าแม่อุมาเทวีออกมาแห่ตามถนนเพื่อให้คนได้สักการะเจ้าแม่ เทศกาลนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า ดูเซร่า ชื่อไทย เนาวราตรี นั่นเอง
เรื่องขอพรที่สมหวัง
เจ้าแม่อุมาเทวี แม้ว่าจะเป็นความเชื่อของศาสนาฮินดู แต่ท่านมีชื่อเสียงมากในเรื่องของการขอพรความรัก หลายคนหากยังไม่สมหวังในรัก มักจะเข้ามาขอพรท่านที่นี่แม้ว่าจะไม่ได้นับถือศาสนาฮินดูก็ตาม จนวัดแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญด้านการท่องเที่ยวของถนนสีลมไปในปัจจุบัน หากใครเดินทางผ่านไปทางสีลมก็อย่าลืมไปนมัสการเจ้าแม่อุมาเทวีกันด้วย เค้าเปิดรับทุกคน ทุกความเชื่อไม่ต้องกังวลไป